พายุฝน

เตือนควันไฟเป็นปัจจัย เสริมที่ทำให้ความรุนแรงของพายุทอร์นาโดมากยิ่งขึ้น

Gregory Carmichael อาจารย์ด้านวิศวเคมีและวิศวชีวเคมี มหาวิทยาลัย University of Iowa ผู้อำนวยการร่วมสถาบัน Center for Global and Regional Environmental Research (CGRER) และ ผู้อำนวยการโครงการ Iowa Informatics Initiative ได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างควันไฟกับ ความรุนแรงของพายุทอร์นาโดจากประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 2011 ซึ่งเกิดพายุทอร์นาโดจำนวน 122 ลูก บริเวณพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิต สูงถึง 313 คน และถูกพิจารณาว่าเป็นความรุนแรงที่สุดทางสภาพอากาศหลังจากเหตุการณ์ในปี ค.ศ. 1950

Carmichael กล่าวว่า สภาพอากาศที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและทันทีทันใดนั้น มีสาเหตุหลักจาก สภาพแวดล้อมซึ่งนำไปสู่การก่อตัวของพายุทอร์นาโดที่มีความรุนแรง การเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมหมุนที่ เกิดจากการเคลื่อนตัวขึ้นข้างบนของอากาศในเวลาที่นานขึ้น และอาจะทำให้เกิดลูกเห็บ การศึกษาของทีม นักวิจัยนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นการศึกษาครั้งแรกถึงอิทธิพลของควันไฟต่อความรุนแรงของพายุ ทอร์นาโดในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้ ศูนย์การคาดการณ์สภาพอากาศยังไม่เคย มีการพิจารณาถึงควันไฟในชั้นบรรยากาศและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทำให้มีการพิจารณาว่าควันไฟเป็นปัจจัย เสริมที่ทำให้พายุทอร์นาโดเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทีมนักวิจัยใช้คอมพิวเตอร์จำลองเพื่อศึกษาข้อมูลที่บันทึก ไว้ในช่วงเหตุการณ์ ค.ศ. 2011

ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างควันไฟและผลกระทบจากแสงอาทิตย์และเมฆร่วมด้วย ซึ่งในอนาคตนักวิจัยจะ สามารถวิเคราะห์ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้โดยเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ ทีมนักวิจัยวางโครงการที่จะทำงานร่วมกับผู้พัฒนา รูปแบบและหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบการพยากรณ์เพื่อ ความก้าวหน้าในการดำเนินการทดสอบ และการร่วมมือเพื่อศึกษาผลกระทบเหล่านี้ในการพยากรณ์อากาศและยังได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก NASA, U.S. Environmental Protection Agency (EPA), National Institutes of Health (NIH), National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) และโครงการทุนวิจัย Fulbright-CONICYT ในประเทศชิล